ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ดีดตัวเหนือระดับ 35,000 จุดในวันนี้ ขานรับการเปิดประเทศของสหรัฐ รวมทั้งการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สดใส
ณ เวลา 21.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,252.49 จุด บวก 339.93 จุด หรือ 0.97%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบินและธุรกิจเรือสำราญ ต่างพุ่งขึ้นในการซื้อขายวันนี้ ขานรับรัฐบาลสหรัฐที่ได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่สหรัฐ
ทั้งนี้ สหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกคำสั่งดังกล่าวในปีที่แล้วเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า ชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสจะสามารถเดินทางเข้าสู่สหรัฐนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.
คาดว่าการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของสหรัฐ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ สหรัฐเริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทางครั้งแรกต่อผู้ที่เดินทางจากจีนเมื่อเดือนม.ค.2563 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากนั้นสหรัฐได้เพิ่มรายชื่อประเทศที่ถูกจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐเรื่อยมา จนกระทั่งล่าสุดในเดือนพ.ค. สหรัฐได้ประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ
ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทจำนวน 80.5% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค.
ถึงแม้ยอดค้าปลีกดีดตัวขึ้นในเดือนก.ย. แต่นักลงทุนกังวลว่าภาวะตึงตัวของอุปทานจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุด
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 2.6% ในเดือนส.ค.