ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 469.39 จุด เพิ่มขึ้น 3.47 จุด หรือ +0.74%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,727.52 จุด เพิ่มขึ้น 42.31 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,587.36 จุด เพิ่มขึ้น 124.64 จุด หรือ +0.81% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,234.03 จุด เพิ่มขึ้น 26.32 จุด หรือ +0.37%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และปรับตัวขึ้น 2.6% ในรอบสัปดาห์นี้ หลังความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.8% และช่วยหนุนตลาด หลังธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาด เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัว
ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารของยุโรปฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด ตามทิศทางของหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานมานี้
หุ้นกลุ่มค้าปลีก, น้ำมันและก๊าซ และกลุ่มเดินทาง ปรับตัวขึ้นราว 1.6-2%
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อในยุโรปยังคงเป็นเพียงชั่วคราว และไม่มีสัญญาณว่า จะส่งผลกระทบต่อค่าจ้างแรงงาน
หุ้นฮูโก้ บอส บริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่นของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 1% เนื่องจากปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการในปีปัจจุบัน หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 ดีดตัวขึ้นรับอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในยุโรปและอเมริกา