ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกเศรษฐกิจจีนชะลอตัวกระทบหุ้นสินค้าหรูหรา

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง หลังจีนเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนวิตกว่า เงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.04 จุด ลดลง 2.35 จุด หรือ -0.50%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,673.10 จุด ลดลง 54.42 จุด หรือ -0.81%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,474.47 จุด ลดลง 112.89 จุด หรือ -0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.83 จุด ลดลง 30.20 จุด หรือ -0.42%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังพุ่งขึ้น 3 วันติดต่อกันราว 2.7% ขณะที่หุ้นทั่วโลกร่วงลงโดยถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่อัตราต่ำสุดในรอบ 1 ปีในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนพลังงาน, ภาวะคอขวดด้านอุปทาน และภาวะย่ำแย่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวราว 5.2% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 3 ไตรมาส โดยเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนพลังงาน, ภาวะติดขัดด้านอุปทาน, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการที่รัฐบาลควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีน อาทิ หลุยส์ วิตตอง, เคอริง และแอร์เมส ร่วงลงราว 1.4-2.4%

นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ปรับเพิ่มภาษีการบริโภคในจีนนั้น ส่งผลกระทบต่อหุ้นดังกล่าวด้วย