ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,190.30 จุด ลดลง 32.80 จุด หรือ -0.45%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 3.5% ท่ามกลางความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป หลังมีรายงานว่าบริษัทประสบความล้มเหลวในการขายสินทรัพย์มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์
หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 2.8% แม้รายงานการผลิตโดยรวมในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 2%
หุ้นริโอ ทินโต, หุ้นบีเอชพี กรุ๊ป และหุ้นเกล็นคอร์ ปรับตัวลง 2.4-4.2%
ดัชนี FTSE100 ปรับตัวขึ้น 11.5% แล้วในปีนี้ แต่ตามหลังตลาดอื่น ๆ ในยุโรป และสหรัฐ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน, ความวิตกหลัง Brexit และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอีกนั้น ยังคงส่งผลกระทบต่อตลาด
แต่หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 1.2% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 ขยายตัวเกินคาด และยังคงระดับคาดการณ์แนวโน้มผลกำไรทั้งปี