ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประกอบการแกร่ง-หุ้นเทคโนพุ่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทลอรีอัล และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นหลังไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการส่งมอบเงินเพื่อจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 471.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.17 จุด หรือ +0.46%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,733.69 จุด เพิ่มขึ้น 47.52 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,542.98 จุด เพิ่มขึ้น 70.42 จุด หรือ +0.46% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,204.55 จุด เพิ่มขึ้น 14.25 จุด หรือ +0.20%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ทำการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลก

หุ้นลอรีอัลของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 1.5% โดยหุ้น ASML และหุ้น SAP ปรับตัวขึ้น 3.2% และ 1.2% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลล่าสุดของ Refinitiv ที่คาดว่า บริษัทจดทะเบียนในยุโรปจะมีผลกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 47.6% สู่ระดับ 9.61 หมื่นล้านยูโร (1.12 แสนล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 46.7%

บรรดานักลงทุนไม่ได้สนใจผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า การขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนชะลอตัวลงในเดือนต.ค. ขณะที่อุตสาหกรรมบริการเผชิญความยากลำบากจากความวิตกอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโรคโควิด-19

นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในยูโรโซนที่แตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ได้เพิ่มแรงกดดันต่อ ECB ที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป