ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์หนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 472.21 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด หรือ +0.07%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,712.87 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ -0.31%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,599.23 จุด เพิ่มขึ้น 56.25 จุด หรือ +0.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,222.82 จุด เพิ่มขึ้น 18.27 จุด หรือ +0.25%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.8% และ 1.0% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี และราคาทองแดงดีดตัวขึ้น เนื่องจากสต็อกทองแดงของจีนที่ลดลงกระตุ้นการคาดการณ์ว่าจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินในสหรัฐและอังกฤษนั้น ได้เป็นแรงหนุนกับหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งปรับตัวขึ้น 0.8% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ปรับตัวขึ้น 1.9% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้นเกินคาด 74% และประกาศแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์

แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นถ่วงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ผลตอบแทนของธุรกิจดังกล่าวซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินปันผลนั้นมีความน่าดึงดูดใจน้อยลง

หุ้นแอร์บัส ร่วง 1.6% หลังปฏิเสธการเรียกร้องให้ปรับลดแผนการผลิตเครื่องบินตระกูล A320

หุ้นกลุ่มเทเลคอม ร่วงลง 0.9% หลัง BofA Global Research ระบุว่าหุ้นโนเกียและหุ้นอีริคสันเป็นหุ้นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดโดยรวม (underperform) เนื่องจากมีการคาดการณ์ผลประกอบการในระดับต่ำ และบ่งชี้ว่าตลาด 5G ได้แตะระดับสูงสุดแล้ว

บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ และการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์นี้