ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเดือนต.ค. โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 478.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ +0.71%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,893.29 จุด เพิ่มขึ้น 62.95 จุด หรือ +0.92%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,806.29 จุด เพิ่มขึ้น 117.52 จุด หรือ +0.75% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,288.62 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุดหรือ +0.71%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนทะยานขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นมากที่สุด และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนด้วย
หุ้นไรอันแอร์ บวก 1.2% หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
หุ้นซาโนฟี พุ่ง 2.2% หลังธนาคารเอชเอสบีซีแนะนำซื้อหุ้นซาโนฟี
บรรดานักลงทุนจะรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพุธนี้ โดยเฟดมีแผนที่จะเริ่มปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่นำมาใช้เพื่อช่วยรับมือกับผลกระทบของโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมา