ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,792.47 จุด เพิ่มขึ้น 271.57 จุด หรือ +0.92% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,092.23 จุด เพิ่มขึ้น 67.48 จุด หรือ +0.27%
เฟดประกาศว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการ QE เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการลดวงเงิน QE ดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565
แถลงการณ์ของเฟดยังระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% โดยคาดว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปจนกว่าภาวะตลาดแรงงานจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศัยภาพตามที่เฟดประเมินไว้ และอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2% และอยู่ในทิศทางที่จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา
คณะกรรมการ FOMC จะพยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ทั้งนี้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยาวของเฟดอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจึงตั้งเป้าหมายที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวจะยังคงอยู่ที่ระดับ 2% โดยคณะกรรมการจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว