ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,987.79 จุด เพิ่มขึ้น 37.14 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,029.65 จุด เพิ่มขึ้น 69.67 จุด หรือ +0.44%ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.91 จุด เพิ่มขึ้น 31.02 จุด หรือ +0.43%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวในแดนบวกเกือบทั้งวัน ขานรับเฟดประกาศเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย.นี้ตามความคาดหมาย และมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ได้ส่งสัญญาณเมื่อวันพุธว่า จะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วน BoE ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ BoE มีมติ 7-2 เสียง สนับสนุนการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนด้วย แม้แรงกดดันด้านต้นทุนเพิ่มขึ้นก็ตาม
หุ้นโซซิเอเต เจเนอราลของฝรั่งเศสและหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี ปรับตัวขึ้น 1.0% และ 1.5% ตามลำดับ หลังสองธนาคารเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด