ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง และหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,340.15 จุด เพิ่มขึ้น 66.11 จุด หรือ +0.91%
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ พุ่งขึ้น 16.5% หลังคาดการณ์ผลกำไรครึ่งปีสูงเกินคาด และปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีด้วย
หุ้นกลุ่มส่งออก ปรับตัวขึ้น 0.9% โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยหุ้นดิอาจีโอ, หุ้นยูนิลีเวอร์ และหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค บวกขึ้นตามกัน
ปอนด์อ่อนค่าลง 0.55% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2533
หุ้นกลุ่มธนาคาร เพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะมีค่า พุ่งขึ้น 3.6% โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาทองคำซึ่งได้รับแรงซื้อเพื่อประกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ปรับตัวขึ้น 1.0% หลังประกาศแผนการที่จะสร้างแผนกเพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับวัคซีนและการรักษาโรคด้วยแอนติบอดี