ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง โดยถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่า อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,325.75 จุด บวก 218.97 จุด หรือ +0.75% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,958.28 จุด ลดลง 37.86 จุด หรือ -0.15%
นักลงทุนยังคงซึมซับข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือนก.ย
นอกจากนี้ ตลาดในภูมิภาคยังถูกกดดันจากตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.ของออสเตรเลียที่ลดลงเกินคาด ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้น เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน แม้สัญญาณทุกด้านบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วขณะที่ออสเตรเลียทำการเปิดประเทศ
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.ของออสเตรเลีย ร่วงลง 46,300 ตำแหน่ง ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนต.ค. พุ่งขึ้นแตะระดับ 5.2% จากระดับ 4.6% ในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 64.7% ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังไม่สามารถหางานทำได้