ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (12 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ หลังดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นฉุดราคาโลหะและราคาน้ำมันลดลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,347.91 จุด ลดลง 36.27 จุด หรือ -0.49%
ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดันจากหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งร่วงลง 6.93% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสต่ำกว่าคาด และยังคงคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีที่ระดับเดิม
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 2.6% และหุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลง 1.2% หลังเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นถ่วงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนยังคงปิดตลาดในแดนบวกได้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์
นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานยังคงเป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นลอนดอนลง
ส่วนผลสำรวจล่าสุดของหอการค้าอังกฤษระบุว่า ธุรกิจ 80% ได้รับผลกระทบจากราคาที่เพิ่มขึ้นในอังกฤษ ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ