ดาวโจนส์บวก 100 จุด ขานรับ "ไบเดน" เตรียมลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 15, 2021 22:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัว 100 จุด ขานรับการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้

นักลงทุนจับตายอดค้าปลีกสหรัฐในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสัปดาห์นี้

ณ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,200.80 จุด บวก 100.49 จุด หรือ 0.28%

ราคาหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 3% หลังมีข่าวว่าสายการบินซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างของโบอิ้ง ขณะที่สายการบินเอมิเรตส์ก็ได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งเช่นกัน

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะลงนามในร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework - BIF) วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ โดยพิธีลงนามดังกล่าวจะมีสมาชิกสภาคองเกรสที่ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

โครงการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ปธน.ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยโครงการดังกล่าวจะรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณในการก่อสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังมีกำหนดจัดการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในคืนวันนี้เวลา 19.45 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือพรุ่งนี้เช้า (16 พ.ย.) เวลา 07.45 น.ตามเวลาไทย

การประชุมดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนเกี่ยวกับประเด็นการค้า, การโจมตีทางไซเบอร์ รวมทั้งประเด็นการเมือง โดยจีนไม่พอใจต่อการที่สหรัฐให้การสนับสนุนไต้หวัน ขณะที่สหรัฐคัดค้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนต่อชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง, การปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง รวมถึงการแผ่อิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวไม่ได้คาดหวังสูงต่อการประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดยทั้งสองฝ่ายจะไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วมกันหลังการประชุม

"นี่เป็นโอกาสที่ท่านประธานาธิบดีไบเดนจะบอกประธานาธิบดีสี จิ้นผิงโดยตรงว่าท่านคาดหวังว่าจีนจะเล่นตามกติกา เช่นเดียวกับชาติที่มีความรับผิดชอบทำกัน" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าว ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าการประชุมครั้งนี้อาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนเสนอให้มีการจัดการประชุมสุดยอดแบบพบหน้ากันกับปธน.สี จิ้นผิง แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากทางฝ่ายจีน เนื่องจากปธน.สี จิ้นผิงไม่ได้เดินทางออกจากประเทศเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ปธน.สี จิ้นผิงจะเชิญปธน.ไบเดนเดินทางเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในเดือนก.พ.2565

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าคำเชิญดังกล่าวจะถือเป็นบททดสอบต่อปธน.ไบเดน โดยหากผู้นำสหรัฐยอมรับคำเชิญของปธน.สี จิ้นผิง ก็จะขัดแย้งกับท่าทีของสหรัฐในการวิพากษ์วิจารณ์จีนในหลายประเด็นก่อนหน้านี้ และหากปธน.ไบเดนเลือกที่จะปฏิเสธคำเชิญของผู้นำจีน ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเย็นชาต่อไป

ทางด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าปธน.ไบเดนจะเตรียมคำตอบต่อคำเชิญดังกล่าวอย่างไร

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ประเด็นดังกล่าวมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นคือการที่ G7 กำลังพิจารณาที่จะ "บอยคอตต์ทางการทูต" ต่อการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวของจีน โดยนักกีฬายังคงเข้าร่วมการแข่งขันได้ตามปกติ แต่ผู้นำประเทศของ G7 จะไม่เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน

นอกจากนี้ กลุ่มเคลื่อนไหวทั่วโลกยังได้ทำการรณรงค์ให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ทำการยกเลิกหรือเลื่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในจีน โดยอ้างถึงการที่จีนได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ