ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,619.25 จุด เพิ่มขึ้น 17.27 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,682.94 จุด ลดลง 15.02 จุด หรือ -0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,854.76 จุด ลดลง 202.68 จุด หรือ -1.26%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวก ขานรับปธน.ไบเดนประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดเฝ้าจับตาว่าปธน.ไบเดนจะเสนอชื่อผู้ใด ระหว่างนายพาวเวล และนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ซึ่งเป็น 2 ตัวเก็งที่ในการเสนอชื่อให้เป็นประธานเฟดคนใหม่
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 2% โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และจากการที่นายพาวเวลได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนมองว่านางเบรนาร์ดมีจุดยืนสนับสนุนการออกกฎระเบียบควบคุมภาคธนาคารอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.12% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ทะยานขึ้น 2.5% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวขึ้น 1.96% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 3.15%
หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.29% หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า 3% ในระหว่างวัน หลังนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ยอดการจัดส่งผลิตภัณฑ์ iPhone 13 จะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
หุ้นเทสลา ดีดตัวขึ้น 1.74% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลาทวีตข้อความว่า รถยนต์เทสลารุ่น Model S Plaid อาจจะเริ่มจำหน่ายในจีนประมาณเดือนมี.ค.ปีหน้า
หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 7.17% หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของบริษัทโมเดอร์นาให้กับผู้ใหญ่ชาวอเมริกันทุกคน
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยอัลฟาเบท ร่วงลง 1.76% หุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 2.83% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ร่วงลง 1.24% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.96%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้น 0.8% สู่ระดับ 6.34 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 6.20 ล้านยูนิต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 2-3 พ.ย.
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์