ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (23 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,266.69 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด หรือ +0.15%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น โดยหุ้นริโอ ทินโต, หุ้นบีเอชพี กรุ๊ป, หุ้นเกล็นคอร์, หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ปรับตัวขึ้นตามกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการกำหนดข้อจำกัดครั้งใหม่ ท่ามกลางโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
นายโรเบิร์ต คอร์ทส รัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ย.) ว่า อังกฤษกำลังเตรียมที่จะทบทวนกฎเกณฑ์ด้านการเดินทางที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ อังกฤษยังล้าหลังประเทศยุโรปอื่น ๆ ในการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทาง โดยบรรดาสายการบินได้ร้องเรียนว่า ข้อจำกัดที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ของอังกฤษ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปยังอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 11.6% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนและอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนก็ยังคงปรับตัวตามหลังตลาดหุ้นยุโรปอื่น ๆ เนื่องจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน และความวิตกเรื่องเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ