ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าทรุดตัวหนักสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนและหันไปหาการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,779.63 จุด ร่วงลง 719.65 จุด หรือ -2.44% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,213.55 จุด ลดลง 526.61 จุด หรือ -2.13%
ข่าวการพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 828.38 จุด หรือ -2.81% แตะที่ 28,670.90 จุด ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาญี่ปุ่นในวันนี้ หลังจากที่ปิดภาคเช้าดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดของวันในรอบ 1 เดือน
นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังเปิดเผยว่า พบนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 ส่วนอีกรายเป็นนักท่องเที่ยวที่กักตัวอยู่ในโรงแรม ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ติดเชื้อรายนี้พักอยู่ห้องตรงข้ามกับผู้ติดเชื้อรายแรก จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้ติดเชื้อรายที่ 2 อาจติดเชื้อจากผู้ป่วยรายแรกจากอากาศที่หมุนเวียนระหว่างห้องพัก
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมจัดการประชุมวาระพิเศษในวันนี้ (26 พ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ โดยการประชุมในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่นายทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนในอังกฤษได้ตรวจพบคลัสเตอร์ขนาดเล็กของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาคอื่นนั้น หลายประเทศในยุโรปได้เร่งระดมฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้ประชาชน รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการออกนอกที่พักในช่วงกลางคืน โดยประเทศสโลวาเกียได้ประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 ในเยอรมนีนั้นแตะ 100,000 รายแล้ว