ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเปิดตลาดเช้าวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,866.73 จุด เพิ่มขึ้น 44.97 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,595.57 จุด เพิ่มขึ้น 120.31 จุด หรือ +0.51% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,561.89 จุด ลดลง 2 จุด หรือ -0.06%
นายพาวเวลแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการ QE มากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะหารือกันในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 ธ.ค.
"ขณะนี้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมาก และแรงกดดันจากเงินเฟ้อได้เพิ่มสูงขึ้น ผมจึงเห็นว่าถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่เฟดจะพิจารณายุติโครงการซื้อพันธบัตรให้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเดือน โดยเราจะหารือกันในการประชุมครั้งต่อไป" นายพาวเวลกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายสเตฟาน บันเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน พร้อมกับเตือนว่า บรรดาบริษัทเวชภัณฑ์อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนจึงจะสามารถผลิตวัคซีนสูตรใหม่ที่จะป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างเพียงพอ
นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนพ.ย. ของเกาหลีใต้, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 ของออสเตรเลีย และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. ของจีนจากไฉซิน