ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,754.75 จุด เพิ่มขึ้น 35.32 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,701.21 จุด เพิ่มขึ้น 14.46 จุด หรือ +0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,786.99 จุด เพิ่มขึ้น 100.07 จุด หรือ +0.64%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก หลังจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทคออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวานนี้ว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ผลการทดลองในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ลดความสามารถในการต่อสู้ของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนลงเหลือเท่ากับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมซึ่งร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานด้วยการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม
ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบิน, กลุ่มเรือสำราญ และกลุ่มโรงแรม โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 4.24% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นเดลตา แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.21% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 5.46% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 5.21% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล บวก 0.71% หุ้นลาสเวกัส แซนด์ส พุ่งขึ้น 4.42%
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.28% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ของยูบีเอสยังคงจัดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิลที่ระดับ "Buy" แม้มีรายงานว่าการผลิต iPhone 13 ปรับตัวลดลง 20% ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.ก็ตาม
หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) พุ่งขึ้น 2.4% หลังมีรายงานว่าทางบริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเลื่อนการกลับเข้าออฟฟิศออกไปได้อีก 3-5 เดือน จากเดิมที่กำหนดว่าพนักงานจะต้องกลับเข้าออฟฟิศในช่วงปลายเดือนม.ค. 2565
หุ้นกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ พุ่งขึ้น 2.58% หลังจากนักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นกู๊ดเยียร์สู่ระดับ "Buy" จากระดับ "Hold"
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2
ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งหากสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน