ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันจันทร์ (13 ธ.ค.) โดยถูกกดดันโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงิน ขณะที่รายงานการพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสหราชอาณาจักรได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการคุมเข้มการเดินทางที่จะมีต่อการใช้จ่ายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,231.44 จุด ลดลง 60.34 จุด หรือ -0.83%
หุ้นกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 2.19% และหุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ร่วงลง 2.2% และ 2.7% ตามลำดับ โดยปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ
การซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยในวันจันทร์ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คนในสหราชอาณาจักร หลังจากติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ร่วงลง 3.5% โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มข้อจำกัดด้านการเดินทาง หุ้นวิซ แอร์ ร่วง 4.2% หลังเอชเอสบีซีแนะนำลดการลงทุน ขณะที่สายการบินต่าง ๆ เรียกร้องให้รัฐสนับสนุนหลังจากไวรัสโอมิครอนทำลายความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของธุรกิจการบิน
ข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้บดบังการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้
สัญญาล่วงหน้าในตลาดการเงินปรับตัวรับความเป็นไปได้ 40% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.15% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งลดลงจากเกือบ 70% ที่คาดกันไว้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว