ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ นลท.วิตกโอมิครอน-จับตาประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 14, 2021 11:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดแดนลบเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังและจับตาสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า รวมถึงการปรับลดอัตราการซื้อพันธบัตร

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,504.15 ลดลง 136.34 จุด หรือ -0.48% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,653.16 จุด ลดลง 301.42 จุด หรือ -1.26%

สำนักงานสาธารณสุขแคนาดาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (13 ธ.ค.) ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแคนาดาอาจพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันข้างหน้าเนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดในชุมชน โดยมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวในรัฐออนแทรีโอซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศ

ทั้งนี้ รัฐออนแทรีโอรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,536 คนเมื่อวานนี้ ซึ่งพุ่งขึ้นกว่า 70% จากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า ในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 80 คน การพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐออนแทริโอ ทำให้รัฐบาลรัฐออนแทรีโอเตรียมระงับการผ่อนปรนมาตรการจำกัดที่วางแผนเอาไว้ว่าจะยกเลิกก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี โดยจนถึงขณะนี้ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวได้แพร่กระจายไปแล้วกว่า 60 ประเทศทั่วโลกนับตั้งแต่ตรวจพบครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐจะนำมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารมาใช้อีกครั้งตั้งแต่วันพุธที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อเตรียมรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการรวมตัวกันของประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี รวมทั้งการตรวจพบไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยมาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน และจะพิจารณาหลังจากนั้นว่าควรจะขยายเวลาการใช้มาตรการต่อไปหรือไม่

นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า รวมถึงการปรับลดอัตราการซื้อพันธบัตร โดยโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะเพิ่มการปรับลดวงเงิน QE เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. 2565 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563

สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาควันนี้ ผลสำรวจโดยเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลออสเตรเลียผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น รวมทั้งการจ้างงานที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ดัชนีภาวะธุรกิจเดือนพ.ย.ของออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 2 จุด สู่ระดับ +12 จุด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยได้แรงหนุนจากดัชนีการจ้างงานที่พุ่งขึ้น 5 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ +11

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ในภูมิภาคที่น่าติดตาม ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย. ของเกาหลีใต้, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ของญี่ปุ่น และยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนพ.ย. ของจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ