ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศชัดเจนว่าจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนมี.ค. 2565 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,868.37 จุด เพิ่มขึ้น 408.65 จุด หรือ +1.44%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,287.93 จุด ลดลง 132.83 จุด หรือ -0.57% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,648.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด หรือ +0.04%
ที่ประชุมเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และประกาศว่าจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค. 2565
นอกจากนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 และปรับขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งในปี 2566 และปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2567
ไมค์ โลเวนการ์ท นักวิเคราะห์จากบริษัท E-Trade Financial กล่าวว่า "ตลาดขานรับผลการประชุมเฟดครั้งนี้เนื่องจากไปตามที่คาดการณ์ไว้ และแม้ว่าเฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปี 2565 แต่นักลงทุนมองว่านี่เป็นการส่งสารที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้มองเห็นภาพรวมในอนาคตที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย"
นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาควันนี้ ได้แก่ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น รวมถึงอัตราว่างงานเดือนพ.ย. ของออสเตรเลีย