ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน ขณะที่นักลงทุนซึมซับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนมี.ค. 2565 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,904.25 จุด เพิ่มขึ้น 444.53 จุด หรือ +1.56% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,231.48 จุด ลดลง 189.28 จุด หรือ -0.81%
ที่ประชุมเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และประกาศว่าจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค. 2565
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในเอเชียเช้านี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดส่งออกเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน แม้ขยายตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยตลาดคาดว่ายอดส่งออกเดือนพ.ย.อาจจะขยายตัว 21.2%
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 366,100 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.6% ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5%
นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมในวันนี้ ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมในวันพรุ่งนี้