ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบมากกว่า 1 สัปดาห์ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) สัญญาว่าจะยังคงสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไป และยังคงเลือกที่จะดำเนินการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 476.56 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด หรือ +1.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,005.07 จุด เพิ่มขึ้น 77.44 จุด หรือ +1.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,636.40 จุด เพิ่มขึ้น 160.05 จุด หรือ +1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,260.61 จุด เพิ่มขึ้น 89.86 จุด หรือ +1.25%
ตลาดปรับตัวขึ้นหลัง ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในไตรมาส 2 ของปี 2565 และลดวงเงินสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรในไตรมาส 3
ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยุติโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโรในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลใหม่บ่งชี้ว่า การขยายตัวของธุรกิจยูโรโซนชะลอตัวลงเกินคาดในเดือนธ.ค. เนื่องจากการกำหนดมาตรการใหม่เพื่อควบคุมไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้น ได้สกัดกั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-บริการขั้นต้นของยูโรโซนเดือนธ.ค. ปรับตัวลงแตะระดับ 53.4 เทียบกับระดับของเดือนพ.ย.ที่ 55.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. อีกทั้งยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 54.0
ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) สร้างความประหลาดใจต่อตลาดการเงิน โดยมีมติ 8-1 เสียงในการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% ในการประชุมวันพฤหัสบดีเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.75% ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันและโลหะที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ บวกขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโนวาร์ติสซึ่งพุ่งขึ้น 5.7% หลังประกาศซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่วงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 2.2% หลังเปิดเผยว่า จากการทดลองพบว่า ยา Evusheld มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโอมิครอน
หุ้นแอร์บัส พุ่งขึ้น 2.4% หลังสายการบินแควนตัส แอร์เวย์ส เลือกแอร์บัสในการจัดหาเครื่องบินสำหรับกองบินในประเทศ