ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แต่ตลาดปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,269.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด หรือ +0.13%
หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง
หุ้นกลุ่มค้าปลีก ปรับตัวขึ้น 0.5% หลังข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ย.
ยอดค้าปลีกของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. เนื่องจากประชาชนออกไปจับจ่ายสินค้าในเทศกาลชอปปิงแบล็ก ฟรายเดย์ (Black Friday) กับช่วงก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลให้มีการปิดร้านค้าจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยข้อมูลในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษปรับตัวขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นสูงกว่าปีก่อนถึง 4.7%
แต่หุ้นเอชเอสบีซี ปรับตัวลง 0.6% สวนทางตลาด หลังหน่วยงานควบคุมด้านกฎระเบียบการเงินของสหราชอาณาจักรได้สั่งปรับเอชเอสบีซีเป็นเงิน 63.95 ล้านปอนด์ (85.16 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการต่อต้านการฟอกเงิน
หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ ร่วงลงมากกว่า 1% ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ท่ามกลางความวิตกว่ามาตรการจำกัดครั้งใหม่เพื่อสกัดโอมิครอนอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิง