ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลกจะยังคงเพิ่มขึ้นก็ตาม
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,548.80 จุด เพิ่มขึ้น 31.21 จุด หรือ +0.11% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,047.22 จุด เพิ่มขึ้น 75.89 จุด หรือ +0.33%
นักลงทุนขานรับปัจจัยบวกหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันกับชาวอเมริกันเมื่อคืนนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับที่เคยทำในเดือนมี.ค. 2563 พร้อมกับขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ระบุว่า กรรมการบางคนของ BOJ กล่าวว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอ่อนแอ แม้ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลง พร้อมกับกล่าวว่า BOJ ควรดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2%
คณะกรรมการ BOJ มีมติคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ -0.1% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับราว 0% เพื่อรักษาต้นทุนการกู้ยืมไว้ที่ระดับต่ำสำหรับบริษัทต่าง ๆ และภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ BOJ ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. โดยคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัว 3.4% ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.8% ส่วนราคาผู้บริโภคพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารสดที่มีความผันผวนนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.0% ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.6%