ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลหลังมีผลการวิจัยครั้งล่าสุดที่ระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,651.46 จุด เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ +0.31% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,140.28 จุด เพิ่มขึ้น 37.95 จุด หรือ +0.16%
สถาบันอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนเผยผลการศึกษาครั้งล่าสุดซึ่งระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาประมาณ 40% - 45% โดยรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับผลวิจัยของสถาบันโรคติดต่อของแอฟริกาใต้ และสถาบันสาธารณสุขของสกอตแลนด์
ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยเอดินบะระแห่งสกอตแลนด์ได้ทำการติดตามผู้ป่วยเกือบ 152,000 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรวมถึง 22,205 รายที่ติดเชื้อไวรัสโอมิครอน ซึ่งผลการติดตามพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้น มีจำนวนน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเดลตาราว 68%
นอกจากนี้ สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้เปิดเผยผลวิจัยระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนมีความเสี่ยงที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเดลตาถึง 80% ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรครุนแรงน้อยกว่าติดเชื้อไวรัสเดลตาประมาณ 70%
ส่วนความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาควันนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลข GDP ที่แท้จริงในปีงบประมาณ 2565 ขึ้นสู่ระดับ 3.2% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.2% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์ GDP ที่ระดับ 3.2% นั้น ถือเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553