ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกหลังจากหลายสถาบันระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,952.76 จุด เพิ่มขึ้น 276.30 จุด หรือ +0.96% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,209.01 จุด ลดลง 14.75 จุด หรือ -0.06%
ตลาดได้แรงหนุนจากผลการศึกษาของแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์ซึ่งต่างก็บ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่น
ดูบราฟโก ลาคอส-บูชาส นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน แสดงความเห็นว่า ไวรัสโอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่กลับมีแนวโน้มที่จะเร่งไปสู่การยุติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของเจพีมอร์แกนที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า รูปแบบวิวัฒนาการของไวรัสในอดีตบ่งชี้ว่าไวรัสที่มีการแพร่ระบาดมากกว่า แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า จะเข้ามาแทนที่ไวรัสสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากกว่า ด้วยเหตุผลนี้จึงเชื่อว่าโอมิครอนจะเป็นตัวเร่งให้การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 กลายเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเท่านั้น
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานไปแล้วนั้น ญี่ปุ่นเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปรับตัวขึ้น 1.8% ในเดือนต.ค.
ส่วนอัตราว่างงานของญี่ปุ่นเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.1% แตะที่ 2.8% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ได้กระตุ้นให้ประชาชนลาออกเพื่อหางานใหม่ที่ดีกว่าเดิม โดยอัตราว่างงานเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ประกาศยกเลิกมาตรการฉุกเฉินสกัดโควิด-19