ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปในหลายประเทศ โดยบางประเทศได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และมาตรการคุมเข้มอื่น ๆ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,886.09 จุด ลดลง 20.79 จุด หรือ -0.07% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,134.88 จุด เพิ่มขึ้น 48.34 จุด หรือ +0.21%
นักลงทุนยังคงประเมินสถานการณ์โควิด-19 หลังจากที่นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น รวมกับสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดอยู่ อาจนำไปสู่ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในระลอกใหม่ในระดับ "คลื่นสึนามิ"
"สถานการณ์ดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับบุคลากรและระบบสาธารณสุขที่ต้องแบกรับภาระหนักจนแทบล่มสลายอยู่แล้วในปัจจุบัน" นายแพทย์ทีโดรสกล่าว และได้เสริมว่า แรงกดดันไม่ได้มาจากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังมาจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ล้มป่วยด้วย
นอกจากนี้ นายแพทย์ทีโดรสยังเน้นย้ำถึงอันตรายของความเข้าใจที่ว่าสายพันธุ์โอมิครอนนั้นก่อให้เกิดอาการหนักน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ โดยได้กล่าวว่า "เราไม่ควรละเลยข้อมูลแง่ลบหรือให้ความสนใจกับข้อมูลแง่บวกมากเกินไป เพราะเราไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความประมาทด้วยการบอกว่าสายพันธุ์นี้ไม่รุนแรง"
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยไปแล้วนั้น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย.จากเดือนก่อนหน้า หลังจากลดลง 1.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และนับเป็นการปรับขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 3.9% โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย.มากที่สุดในรอบ 17 เดือน ท่ามกลางสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ขยายตัว แม้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19