ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (4 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของการซื้อขายในปี 2565 หลังปรับตัวขึ้นในปี 2564 มากที่สุดในรอบ 5 ปี โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีแนวโน้มน้อยลงที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,505.15 จุด เพิ่มขึ้น 120.61 จุด หรือ +1.63% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 14.3% ในปี 2564 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มอุตสาหกรรม
หุ้นกลุ่มการเงินนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันชีวิต ปรับตัวขึ้น 4.8% และ 3.2% ตามลำดับ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของรัฐบาลอังกฤษแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนต.ค. หลังนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการใหม่ในขณะนี้เพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น โดยหุ้นวิซ แอร์, อีซี่เจ็ต และไอเอจี เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ปรับตัวขึ้น 7.5-10% หลังวิซแอร์รายงานข้อมูลอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ที่แข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มค้าปลีก เพิ่มขึ้น 1.0% ตามความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก แม้จำนวนลูกค้าตามร้านค้าต่าง ๆ หลังวันคริสต์มาสลดลงต่ำกว่าสัปดาห์เดียวกันของปี 2562 ก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า การผลิตของอังกฤษขยายตัวเล็กน้อยเร็วกว่าคาดในเดือนธ.ค. และปัญหาด้านซัพพลายเชนได้บรรเทาลง ซึ่งได้ลดความร้อนแรงของราคาต้นทุนการผลิตที่พุ่งขึ้น