ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (10 ม.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นถ่วงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ขณะที่การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 479.04 จุด ลดลง 7.21 จุด หรือ 1.48%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,115.77 จุด ลดลง 103.71 จุด หรือ -1.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,768.27 จุด ลดลง 179.47 จุด หรือ -1.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,445.25 จุด ลดลง 40.03 จุด หรือ -0.53%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 3.6% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน และหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ส่วนใหญ่ของยุโรปปรับตัวลง
หุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ร่วงลง 3.27%, หุ้นดีลิเวอรี ฮีโร่ ซึ่งบริการสั่งอาหารออนไลน์ ร่วงลง 3.28% และหุ้นเดมเลอร์ บริษัทผลิตรถยนต์ ร่วงลง 3.42%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและสหรัฐเป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนเชื่อว่ามาตรการหนุนสภาพคล่องในช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้นจะสิ้นสุดลง หลังจากที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้น
ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 5% ในเดือนธ.ค.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีในวันจันทร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2562
บรรดานักลงทุนเริ่มปรับตัวรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค ปรับตัวขึ้น 0.2% เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น
หุ้นเครดิต สวิส บวก 1.3% หลังเทรดเดอร์ระบุถึงการคาดการณ์ของสื่อเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขายหรือควบรวมกิจการของเครดิต สวิส
ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดหุ้นยุโรปในปีนี้ยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจที่เปิดเผยในวันจันทร์บ่งชี้ว่า นักลงทุนในยูโรโซนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ และไม่มีแนวโน้มลดลงแม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ก็ตาม และคาดว่าในเดือนม.ค.นี้ บรรดานักลงทุนจะปรับตัวรับผลกระทบจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น