ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 486.05 จุด ลดลง 0.15 จุด หรือ -0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,201.14 จุด ลดลง 36.05 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,031.59 จุด เพิ่มขึ้น 21.27 จุด หรือ +0.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ +0.16%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง 0.2% โดยกลุ่มสินค้าในครัวเรือน ร่วงลง 1.2% แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์ ปรับตัวขึ้น 1.6%
หุ้นบีอี เซมิคอนดักเตอร์ ของเนเธอร์แลนด์ ปรับตัวขึ้น 9%
หุ้นคันทรีไซด์ พร็อพเพอร์ตีส์ของอังกฤษ ร่วงลงมากกว่า 21% หลังประกาศว่า ซีอีโอจะลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลในทันที และเปิดเผยว่า การซื้อขายในไตรมาสแรกในปีงบการเงินใหม่นั้นต่ำกว่าการคาดการณ์ของบอร์ดบริหาร
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพุธซึ่งบ่งชี้ว่า ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
นักเศรษฐศาสตร์บางรายคิดว่าเงินเฟ้ออาจแสดงสัญญาณแตะระดับสูงสุดแล้ว และรายงานดังกล่าวดูเหมือนจะใกล้เคียงกับแนวโน้มในระยะยาว