ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกยังคงให้ความสนใจแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดมานานถึงสองปี
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,574.15 จุด เพิ่มขึ้น 240.63 จุด หรือ +0.85% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,183.54 จุด ลดลง 34.49 จุด หรือ -0.14%
นักลงทุนต่างจับตาการประชุมเฟด ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ เพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังการประชุม แต่จะเริ่มดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดในเดือนมี.ค.
ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ในการประชุมวันนี้ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉุดให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับต่ำ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือน
ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจซึ่งเปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ BOJ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อประจำปีงบประมาณ 2565 ขึ้นสู่ระดับ 1.1% จากเดิมที่ระดับ 0.9% เนื่องจากราคาพลังงานและวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ BOJ ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2565 ขึ้นสู่ระดับ 3.8% จากเดิมที่ระดับ 2.9% โดยระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจถือเป็น "หลักฐาน" ที่พิสูจน์ว่าผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มลดน้อยลง