ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (18 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับผู้บริโภคและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่ภาวะการจ้างงานที่ดีขึ้นในสหราชอาณาจักรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณว่า จะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินตามมา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.55 จุด ลดลง 47.68 จุด หรือ -0.63%
หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับผู้บริโภคปรับตัวลง อาทิ หุ้นดิอาจีโอและหุ้นยูนิลีเวอร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเผชิญแรงกดดันด้วย
ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า การจ้างงานในอังกฤษเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 184,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งแสดงว่าตลาดแรงงานแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
หุ้นยูนิลีเวอร์ ร่วงลง 4.0% ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังจากส่งสัญญาณเมื่อวันจันทร์ว่า จะยังคงเดินหน้าเพื่อขอซื้อธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้บริโภคของแกล็กโซสมิทไคลน์ (GSK) ต่อไป
หุ้นทีเอชจี ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ ร่วง 9.6% หลังเตือนว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ยังคงปรับตัวดีกว่าดัชนี STOXX 600 ของตลาดหุ้นยุโรปนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน