ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก ขานรับธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปี รวมทั้งการที่ญี่ปุ่นรายงานยอดส่งออกที่แข็งแกร่งในเดือนธ.ค.
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,594.29 จุด เพิ่มขึ้น 127.06 จุด หรือ +0.46% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,689.32 จุด เพิ่มขึ้น 561.47 จุด หรือ +2.33%
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.80% และได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.05% สู่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.65% โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้ปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ยอดส่งออกและนำเข้าเดือนธ.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 17.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 7.9 ล้านล้านเยน (6.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 41.1% แตะที่ 8.5 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานของออสเตรเลียร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปี สู่ระดับ 4.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2551 และอยู่ต่ำกว่าระดับการประมาณการโดยเฉลี่ยที่ 4.5% โดยเศรษฐกิจออสเตรเลียมีการจ้างงานเพิ่ม 64,800 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ 60,000 ตำแหน่ง