ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของไมโครซอฟท์
ณ เวลา 21.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,746.05 จุด บวก 448.32 จุด หรือ 1.31%
ราคาหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายวันนี้ หลังการเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าที่คาดไว้
ส่วนราคาหุ้นอินเทลดีดตัวกว่า 2% ขานรับชัยชนะครั้งใหญ่ หลังจากต่อสู้ยาวนานถึง 12 ปี โดยศาลยุโรปประกาศให้คำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่สั่งปรับอินเทลก่อนหน้านี้ถือเป็นโมฆะ
ทั้งนี้ EC ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) สั่งปรับอินเทลเป็นเงินจำนวน 1.06 พันล้านยูโร (1.2 พันล้านดอลลาร์) หรือเกือบ 40,000 ล้านบาทในปี 2552 โดยระบุว่าอินเทลขัดขวางการแข่งขันในตลาดไมโครชิป ด้วยการกดดันให้บริษัทเอเอ็มดี ซึ่งเป็นคู่แข่ง ต้องออกจากตลาด
ราคาหุ้นโบอิ้งดิ่งลงกว่า 2% หลังเปิดเผยตัวเลขขาดทุนมากกว่าคาดในไตรมาส 4/64 โดยได้รับผลกระทบจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายก่อนหักภาษีวงเงิน 3.5 พันล้านดอลลาร์ของเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliners ขณะที่ปัญหาด้านการผลิตทำให้บริษัทต้องชะลอการส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าว
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทสลาและอินเทล ซึ่งจะมีการแถลงหลังปิดตลาดวันนี้
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.00-0.25% แต่โฟกัสสำคัญจะอยู่ที่การแถลงข่าวหลังการประชุมของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งตลาดจะจับตาการส่งสัญญาณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์