ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (2 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นนำตลาด ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 477.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.15 จุด หรือ +0.45%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,115.27 จุด เพิ่มขึ้น 15.78 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,613.77 จุด ลดลง 5.62 จุด หรือ -0.04% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,583.00 จุด เพิ่มขึ้น 47.22 จุด หรือ +0.63%
ตลาดหุ้นยุโรปและหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหุ้นรายตัวได้ช่วยหนุนตลาดด้วย อาทิ หุ้นทีมวิวเวอร์, ซานทานเดร์, จูเลียส แบร์, เกล็นคอร์, โนวาร์ติส และโวดาโฟน
หุ้นธนาคารซานทานเดร์ของสเปนปรับตัวขึ้น หลังรายงานผลกำไรพุ่งขึ้นในไตรมาส 4/2564
หุ้นโอคาโดซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของอังกฤษ พุ่งขึ้นเกือบ 6% หลังเครดิตสวิสปรับเพิ่มราคาเป้าหมายและแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน
บรรดานักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าว จากระดับ 5.0% ในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยในวันอังคารว่า ชาติตะวันตกเพิกเฉยต่อความวิตกด้านความมั่นคงของรัสเซียที่เกี่ยวกับยูเครนและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)