ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน ขณะจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,365.46 จุด เพิ่มขึ้น 116.59 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,202.19 จุด ลดลง 377.36 จุด หรือ -1.54% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,398.72 จุด ลดลง 30.86 จุด หรือ -0.90%
นักลงทุนยังคงจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ก่อนที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค.
ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 14% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทางด้านนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (7 ก.พ.) ในการประชุมรัฐสภายุโรปเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเงินว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาด แต่จะลดลงในปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยไปแล้ว ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจปรับตัวลง 5 จุด แตะที่ +3 ในเดือนม.ค. ขณะที่ยอดขายลดลงถึง 50% แตะที่ระดับ +7 และความสามารถในการทำกำไรลดลง 8 จุด แตะที่ +2 ส่วนดัชนีการจ้างงานลดลง 3 จุด แตะที่ -1
ทั้งนี้ ดัชนีภาวะธุรกิจของออสเตรเลียอ่อนแอลงในเดือนม.ค. เนื่องจากการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค แม้บริษัทต่าง ๆ มีมุมมองบวกว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นไปในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจขยับขึ้นมาแตะที่แตะที่ +3 ในเดือนม.ค. หลังจากร่วงลง 24 จุดในเดือนธ.ค. แตะที่ -12