ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (11 ก.พ.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินคาดของสหรัฐ และความเห็นที่สนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้เกิดความวิตกว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 469.57 จุด ลดลง 2.78 จุด หรือ -0.59%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,011.60 จุด ลดลง 89.95 จุด หรือ -1.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,425.12 จุด ลดลง 65.32 จุด หรือ -0.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,661.02 จุด ลดลง 11.38 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดร่วงลง 2.2% ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่น ๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนลบ
ตลาดถูกกดดัน หลังสหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าคาด และเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 และนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ส่งสัญญาณให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 1% ภายในเดือนก.ค.ปีนี้
การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปถ่วงหุ้นรายตัวร่วงลง โดยหุ้นดีลิเวอรี่ ฮีโร่ ซึ่งเป็นบริษัทส่งอาหารของเยอรมนี ร่วงลง 12% หลังเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอในปีนี้ และนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์และเจพีมอร์แกนได้ปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นดังกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของเยอรมนีอยู่ที่ระดับ 4.9% เดือนม.ค.
ส่วนเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 7.5% ในปี 2564 โดยฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลง 9.4% ในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ