ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันศุกร์ (11 ก.พ.) โดยปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อในสหรัฐ แต่ตลาดยังคงสามารถปรับตัวขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากอังกฤษเปิดเผยว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบน้อยกว่าคาดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,661.02 จุด ลดลง 11.38 จุด หรือ -0.15% แต่ยังคงปรับตัวขึ้น 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงน้อยกว่าคาด 0.2% ในเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 4
แต่ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้ส่งสัญญาณให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% ภายในเดือนก.ค. หลังเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นร้อนแรงที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี
การเปิดเผยผลประกอบการแข็งแกร่งได้ช่วยหนุนหุ้นรายตัวปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค พุ่งขึ้น 3% หลังเปิดเผยรายได้ทั้งปีเพิ่มขึ้น ตลอดจนเพิ่มเงินปันผลและประกาศแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2 พันล้านปอนด์ (2.71 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้