ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าปรับตัวขึ้น นลท.ขานรับรายงานประชุมเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อของนักลงทุน หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงไปกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้ว ขณะเดียวกันตลาดยังคงจับตาสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,395.85 จุด ลดลง 64.55 จุด หรือ -0.24%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,564.50 จุด ลดลง 154.40 จุด หรือ -0.62% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,477.82 จุด เพิ่มขึ้น 11.99 จุด หรือ +0.35%

ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ม.ค.ซึ่งระบุว่า แม้กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ, ตลาดแรงงาน และการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ แต่การพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลในการประชุมแต่ละครั้ง โดยเฟดจะกลับมาประเมินไทม์ไลน์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้ง

ลู ไบรอัน นักวิเคราะห์จากบริษัท DRW Trading กล่าวว่า ตลาดได้รับแรงหนุนหลังรายงานการประชุมบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วและรุนแรงไปกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดถูกกดดันอย่างหนักจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้แสดงจุดยืนแข็งกร้าวด้วยการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 1% ภายในเดือนก.ค.

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในยูเครน หลังจากที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เปิดเผยว่า รัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน แม้มีรายงานว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนจากบริเวณดังกล่าวก็ตาม ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนเช่นกันว่า รัสเซียยังคงมีกำลังทหารมากกว่า 150,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคที่รายงานแล้ว กระทรวงการคลังเปิดเผยในรายงานขั้นต้นว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 2.19 ล้านล้านเยน (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนม.ค ซึ่งเป็นการขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และสูงสุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากยอดการนำเข้ายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และเงินเยนที่อ่อนค่าลง