ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (17 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในยุโรปตะวันออก และจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 464.55 จุด ลดลง 3.22 จุด หรือ -0.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,946.82 จุด ลดลง 18.16 จุด หรือ -0.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,267.63 จุด ลดลง 102.67 จุด หรือ -0.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,537.37 จุด ลดลง 66.41 จุด หรือ -0.87%
ตลาดถูกกดดันจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการยิงปืนใหญ่ในยูเครน และสหรัฐเตือนว่ารัสเซียใกล้ที่จะบุกโจมตียูเครน
กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า กลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียในดอมบาสได้โจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชน
"เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายประณามการที่รัสเซียละเมิดข้อตกลงมินสก์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความตึงเครียดในขณะนี้" แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศยูเครนระบุ
ทางด้านสหรัฐระบุเตือนว่า รัสเซียกำลังหาเหตุและจัดฉากเพื่อสร้างเงื่อนไขในการโจมตียูเครนได้ทุกขณะ โดยนางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า "มีหลักฐานว่ารัสเซียกำลังใกล้โจมตียูเครน นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญมาก และนี่เป็นเหตุผลที่ท่านรัฐมนตรีแอนโทนี บลิงเกนได้เดินทางมายังนิวยอร์กเพื่อยืนยันถึงการใช้แนวทางการทูตของเราเพื่อผ่อนคลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกให้โลกรับรู้ว่าเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันสงคราม" นางโทมัส-กรีนฟิลด์กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกถ่วงลงหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดวางแผนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและขายพันธบัตรมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์จากงบดุลบัญชีของเฟด
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น 0.6% สวนทางตลาด ขณะที่กลุ่มเดินทางและสันทนาการร่วงลง 1.7%
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้ช่วยหนุนหุ้นรายตัวปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี พุ่งขึ้นถึง 4.1% หลังเปิดเผยผลกำไรสุทธิดีกว่าคาดในไตรมาส 4/2564 และหุ้นเคอริงของฝรั่งเศส พุ่งขึ้นถึง 6.6% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ที่แข็งแกร่ง