ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ขณะที่ชาติตะวันตกเชื่อว่ารัสเซียวางแผนที่จะใช้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกับรัฐบาลยูเครนเป็นเหตุผลสนับสนุนการบุกโจมตียูเครน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 460.81 จุด ลดลง 3.74 จุด หรือ -0.81% และติดลบ 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,929.63 จุด ลดลง 17.19 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,042.51 จุด ลดลง 225.12 จุด หรือ -1.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,513.62 จุด ลดลง 23.75 จุด หรือ -0.32%
ตลาดถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบาสและกองกำลังยูเครนในวันศุกร์เป็นวันที่ 2 ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจใช้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน
สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน และกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่นั้น ได้ประกาศอพยพประชาชนไปยังรัสเซีย หลังอ้างว่าถูกโจมตีจากกองกำลังยูเครน ขณะที่ยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐและรัสเซียได้ตกลงที่จะพบปะกันในสัปดาห์หน้านั้น ได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการคลี่คลายความขัดแย้งด้วยวิธีทางการทูต และช่วยจำกัดการร่วงลงของตลาด
หุ้นกลุ่มเดินทางและกลุ่มธนาคารปรับตัวลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้
หุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญกับแรงกดดันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของยุโรปลดลงในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
หุ้นอลิอันซ์ ร่วง 3.8% หลังประกาศปรับลดโบนัสสำหรับซีอีโอและบอร์ดบริหาร
หุ้นแอร์เมส ร่วง 4.1% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 4/2564 ขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้