ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (18 ก.พ.) โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ขณะที่ชาติตะวันตกเชื่อว่ารัสเซียยังคงวางแผนที่จะโจมตียูเครน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,513.62 จุด ลดลง 23.75 จุด หรือ -0.32%
ตลาดถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบาสและกองกำลังยูเครนในวันศุกร์เป็นวันที่ 2 ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจใช้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน
สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน และกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่นั้น ได้ประกาศอพยพประชาชนไปยังรัสเซีย หลังอ้างว่าถูกโจมตีจากกองกำลังยูเครน ขณะที่ยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
หุ้นกลุ่มธนาคาร รวมถึงกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ถ่วงตลาดลง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงในสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกในรอบปีนี้
หุ้นเอฟราซซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กที่ดำเนินงานในรัสเซีย ร่วงลงอย่างหนัก โดยปิดตลาดวันศุกร์ดิ่งลง 7.2% เนื่องจากบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซีย หากการบุกโจมตียูเครนเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดปรับตัวลง แม้อังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ หลังจากที่ร่วงลงในเดือนก่อนหน้า เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทำให้ผู้คนต้องอยู่แต่ในบ้าน
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ระบุว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 4.0% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้นราว 1.0%