ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายในวันนี้ (21 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ 22 ก.พ.
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน, ตลาดทองคำ, ตลาดปริวรรตเงินตรา, ตลาดทองแดง และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ของสหรัฐปิดทำการในวันนี้เช่นกัน
ส่วนภาวะการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,079.18 จุด ร่วงลง 232.85 จุด หรือ -0.68% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น ทำเนียบเครมลินเปิดเผยในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อาจจะพูดคุยกันทางโทรศัพท์หรือจัดการประชุมร่วมกัน แต่แผนการดังกล่าวยังไม่แน่นอน โดยถ้อยแถลงของทำเนียบเครมลินส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียและสหรัฐอาจเผชิญกับความไม่แน่นอน หลังจากที่ในช่วงแรก ทำเนียบขาวแถลงว่า ปธน.ไบเดนเห็นชอบในหลักการ ที่จะจัดการประชุมร่วมกับปธน.ปูติน
นักลงทุนยังคงจับตาการแสดงความคิดเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค. นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการเฟดอาจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน