ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ (25 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน และมองว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซียหลังจากเปิดฉากบุกโจมตียูเครนนั้น ไม่ได้รุนแรงเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ตลาดก็ยังคงปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,489.46 จุด พุ่งขึ้น 282.08 จุด หรือ +3.91%
ตลาดหุ้นลอนดอนฟื้นตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะเจรจากับยูเครน โดยนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียพร้อมส่งตัวแทนไปยังกรุงมินสก์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเบลารุส เพื่อเจรจากับทางการยูเครน
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนในวันศุกร์ โดยปธน.ปูตินกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจาในระดับสูงกับทางการยูเครน
บรรดานักวิเคราะห์ระบุด้วยว่า ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของยุโรปต่อรัสเซียนั้นไม่ได้รุนแรงเท่ากับที่ตลาดคาดไว้ โดยไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย และรัสเซียยังคงสามารถใช้เครือข่าย SWIFT ซึ่งเป็นระบบธนาคารระหว่างประเทศ
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน พุ่งขึ้น 5.4% และ 5.3% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มโลหะมีค่า พุ่งขึ้น 3.5% นำโดยการฟื้นตัวของหุ้นเหมืองแร่ที่ทำธุรกิจในรัสเซีย อาทิ หุ้นโพลีเมทัล และหุ้นเอฟราซ ซึ่งทะยานขึ้น 9% และ 21% ตามลำดับ
หุ้นสายการบินวิซซ์ แอร์ พุ่งขึ้น 12.1% หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประกาศระงับเที่ยวบินทั้งหมดในยูเครน และหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ พุ่งขึ้น 3.8% หลังระงับการดำเนินงานในยูเครน