ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยในวันจันทร์ (28 ก.พ.) ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงติดตามสถานการณ์ในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 453.11 จุด ลดลง 0.42 จุด หรือ -0.09%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,658.83 จุด ลดลง 93.60 จุด หรือ -1.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,461.02 จุด ลดลง 106.21 จุด หรือ -0.73% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,458.25 จุด ลดลง 31.21 จุด หรือ -0.42%
หุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดร่วงลง 4.4% โดยได้รับผลกระทบจากการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย โดยสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ขณะที่สหรัฐประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย
การเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยการเจรจามีขึ้นที่ภูมิภาคโกเมลของเบลารุส ซึ่งอยู่ที่บริเวณชายแดนเบลารุสและยูเครน
ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนแถลงก่อนหน้านี้ว่า สาระสำคัญในการเจรจาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำข้อตกลงหยุดยิงโดยทันที และการถอนทหารรัสเซียออกจากยูเครน
หุ้นรายตัวปรับตัวขึ้นและลงจากผลกระทบของความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
หุ้นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการป้องกันประเทศปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยหุ้นไรน์มีทัลล์ พุ่ง 25% หลังรัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ขณะที่หุ้นบีเออี ซิมเทมส์, หุ้นลีโอนาร์โด และหุ้นเทลส์ ดีดตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
ส่วนหุ้นโพลีมีทัล อินเตอร์เนชันแนล ร่วงลงมากกว่า 56% เนื่องจากทำธุรกิจเหมืองแร่อยู่ในรัสเซีย