ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (2 มี.ค.) โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรมได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นหลังวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนรุนแรงขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,429.56 จุด เพิ่มขึ้น 99.36 จุด หรือ +1.36%
หุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ หุ้นเชลล์และหุ้นบีพี ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นเหมืองแร่ อาทิ หุ้นเกล็นคอร์และริโอ ทินโต นำตลาดปรับตัวขึ้นด้วย หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน, เหล็ก และอะลูมิเนียม พุ่งขึ้นท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานหลังชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย
ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งหนุนหุ้นน้ำมันพุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เดือนม.ค.
หุ้นโพลีมีทัลซึ่งเป็นบริษัททองคำและโลหะเงินของรัสเซีย พุ่งขึ้น 18.5% หลังร่วงลงกว่า 80% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จากผลกระทบของวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
หุ้นเพอร์ซิมมอน พุ่ง 2.1% หลังบริษัทก่อสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของอังกฤษคาดว่า จะสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4-7% ในปี 2565 เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
ส่วนหุ้นสเบอร์แบงก์ของรัสเซีย ร่วง 78.4% หลังธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียแห่งนี้ถูกบังคับให้ปิดกิจการในยุโรป