ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,628.87 จุด เพิ่มขึ้น 235.84 จุด หรือ +0.89%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,434.26 จุด เพิ่มขึ้น 90.34 จุด หรือ +0.40% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,495.93 จุด เพิ่มขึ้น 11.74 จุด หรือ +0.34%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคได้แรงหนุนหลังจากนายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ซึ่งระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทะยานขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางความกังวลที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะได้รับผลกระทบจากการที่นานาประเทศคว่ำบาตรรัสเซีย และบริษัทพลังงานหลายแห่งพากันระงับการลงทุนในรัสเซียเพื่อตอบโต้การใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 7.19 ดอลลาร์ หรือ 7% ปิดที่ 110.60 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันพุธ (2 มี.ค.) ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2554 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 7.96 ดอลลาร์ หรือ 7.6% ปิดที่ 112.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2557
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีกำหนดรายงานวันนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 ของเกาหลีใต้ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ. ของจีนจากไฉซิน