ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล ขณะที่ราคาน้ำมันโลกยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงกดดันของสงครามในยูเครน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,608.21 จุด เพิ่มขึ้น 215.18 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,453.50 จุด เพิ่มขึ้น 109.58 จุด หรือ +0.49% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,487.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด หรือ +0.10%
นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.
ขณะเดียวกัน วิกฤตการณ์ในยูเครนยังคงสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันโลก โดยราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นทะลุระดับ 113 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) พุ่งขึ้นเหนือระดับ 116 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ เนื่องจากภาวะชะงักงันทางการค้าและปัญหาด้านการขนส่งหลังจากนานาประเทศประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโทษฐานรุกรานยูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความหวั่นวิตกเรื่องอุปทานน้ำมัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจภูมิภาคที่รายงานไปแล้ว ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/2564 ซึ่งส่งผลให้ตัวเลข GDP ตลอดปี 2564 ขยายตัวที่ระดับ 4% โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่งเกินคาด
ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ปี 2564 ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น แต่ตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 1.1%