ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามในยูเครน และการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 415.01 จุด ลดลง 2.12 จุด หรือ -0.51%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,962.96 จุด ลดลง 19.31 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,831.51 จุด ลดลง 3.14 จุด หรือ -0.024% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,964.11 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด หรือ +0.067%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวผันผวนตลอดทั้งวัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 2% สวนทางตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อร่วงลง 3.6%
บรรดานักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน ขณะที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในเบลารุสไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศในวันอังคารว่า สหรัฐจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมยูเครนแถลงในวันอังคารว่า กองกำลังทหารของยูเครนได้สังหารพลตรี วิตาลี เจอราไซมอฟ รองผู้บัญชาการกองทัพบกที่ 41 ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ (7 มี.ค.) ใกล้เมืองคาร์คิฟที่ถูกปิดล้อม
หุ้นรายตัวปรับตัวขึ้นและลงจากปัจจัยด้านผลประกอบการ โดยหุ้นไอดับบลิวจี ซึ่งให้เช่าสำนักงาน พุ่งขึ้นกว่า 8% หลังรายงานผลขาดทุนประจำปีลดลง เนื่องจากผู้เช่าสำนักงานเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ระบาดคลี่คลายลง
หุ้นเกรกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจเบเกอรีของอังกฤษ ร่วงกว่า 3% หลังเตือนว่า แรงกดดันด้านต้นทุนมีแนวโน้มที่จะกระทบผลประกอบการในปีนี้